อนิเมะ 3 อันดับสุดประทับใจจาก GHIBI Studios
Ghibi Studio ถือว่าเป็นหนึ่งค่ายอนิเมะที่โด่งดังไปทั่วโลก และถือว่าเป็นค่ายที่ทำหนังที่ดีที่สุดของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ ถึงแม้ว่าGhibi Studiosจะยุติการสร้างอนิเมะชั่วคราว(แต่นานหลายปีแล้ว) แต่อนิเมชั่นของค่ายนี้ก็ยังอยู่ในใจแอดมินและหลายคนอยู่เสมอ ค่ายนี้มีอนิเมชั่นชื่อดังระดับโลกอยู่หลายเรื่อง อาทิ โทโทโร่เพื่อนรัก ที่โด่งดังจนกลายเป็นสัญลักษณ์ของค่ายเลย หรือ Grave of thr fireflies สุสานหิ่งห้อย ที่สร้างความประทับใจให้กับคนทั่วโลก
วันนี้แอดมินเลยขอยกตัวอย่างอนิเมชั่นของGhibi Studioมา3เรื่อง3อันดับที่แอดมินยกให้เป็นหนังในใจของแอดมินเลยก็ว่าได้ ไปดูอนิเมชั่น3อันดับนี้กันเลยดีกว่า
อันดับที่ 3
Spirited Away (มิติวิญญาณมหัศจรรย์)
โดยเรื่องนี้เป็นอนิเมชั่นที่ได้รับรางวัลระดับโลกอย่าง รางวัลออสการ์ ครั้งที่ 75 เลยทีเดียว
มีเนื้อหาประมาณว่าด้วย ชิฮิโร่ เด็กหญิงวัยสิบปีหลงเข้าไปในโลกของภูตพร้อมครอบครัวโดยบังเอิญ บิดามารดากลายร่างเป็นหมู และเธอต้องทำงานที่โรงอาบน้ำของแม่มด เธอจึงต้องพยายามทุกวิถีทางเพื่อที่จะพาเธอและครอบครัวกลับโลกมนุษย์อีกครั้ง
เรื่องนี้ส่วนตัวแอดมินคิดว่าไม่ได้มีเนื้อเรื่องหรือบทที่ปังมากจนได้รับรางวัลออสการ์ แต่อาจจะด้วยเพราะช่วงนั้นกระแสเอเชียนิยมกำลังบูมด้วยส่วนนึง แต่รวมๆแล้วเรื่องนี้ถือว่าใช้ได้เลย เนื้อเรื่องดำเนินไปราบรื่นไม่เยอะเกินไป ดูแล้วเพลินๆดีเพราะไม่ใช่อนิเมะที่เครียดหรือดราม่าอะไรมากค่ะ
อันดับที่2
Whisper of the heart (วันนั้น…วันไหน หัวใจจะเป็นสีชมพู)
เรื่องนี้หลายคนเห็นชื่อแล้วคงคิดว่าจะเป็นอนิเมชั่นรักโรแมนติกเลี่ยนๆหรือเปล่า แต่ความจริงแล้วเรื่องนี้เป็นอนิเมชั่นที่สร้างแรงบันดาลซะมากกว่า
โดยเนื้อเรื่องจะประมาณว่า
เด็กสาวที่ชื่อ ชิซึคุ สึกิชิมะ ผู้ซึ่งเป็นนักเรียนในระดับจูเนียร์ไฮสคูลในเมืองเล็กๆ ใกล้ๆ กับเมืองทามะ ของกรุงโตเกียว เธอมีนิสัยรักการอ่านและการเขียนหนังสือในยามว่าง แต่พ่อแม่ของเธอหวังจะให้เธอใช้เวลากับการบ้านเสียมากกว่า อีกทั้งช่วงเวลาของการสอบเข้าเรียนไฮสคูลก็ใกล้เข้ามาแล้วด้วย เรื่องราวเกิดขึ้นในเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งภายใต้บรรยากาศทันสมัยของประเทศญี่ปุ่น ในขณะที่เด็กวัยรุ่นคนอื่น ๆ กำลังตั้งหน้าตั้งตาเตรียมตัวสอบเข้าเรียนต่อในชั้นมัธยมปลาย แต่ชิซึคุ เด็กสาวผู้รักการอ่านเป็นชีวิตจิตใจ กลับเลือกที่จะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการอ่านหนังสือนวนิยายที่หยิบยืมมาจากหอสมุด และตัวเลขยี่สิบเล่มก็คือเป้าหมายที่สาวน้อยวัยสิบสี่ปีวางไว้สำหรับปิดเทอมครั้งนี้ของเธอ
เมื่อคุณพ่อบอกกับชิซึคุว่าหอสมุดกำลังเปลี่ยนระบบการยืมหนังสือจากที่เคยใช้บัตรเป็นระบบบาร์โค้ด เธอก็นึกอยากหยิบเอาการ์ดกระดาษแข็งที่บันทึกรายชื่อผู้ยืมหนังสือออกมาดู น่าแปลกที่หนังสือทุกเล่มที่เธอเคยอ่านจะมีชื่อของ “เซย์จิ อามาซาว่า” ยืมไปก่อนหน้าเธอทุกครั้ง
สิ่งที่เกิดขึ้นสร้างความประหลาดใจให้ชิซึคุอย่างมาก และทำให้เธออดไม่ได้ที่จะเฝ้ามองหาชายในจินตนาการของเธอ ขยันอ่านหนังสือ สอบเข้ามัธยมปลาย และเรียนในมหาวิทยาลัยดี ๆ คือเสียงจากสังคมที่กระซิบบอกเยาวชนที่กำลังเติบโต แม้ชิซึคุจะชอบหนังสือนิยายเพียงใด หรือมีพรสวรรค์ในด้านวรรณคดีแค่ไหน ตัวเธอเองก็ไม่สามารถมองข้ามบรรทัดฐานเหล่านั้นและเลือกเดินไปบนเส้นทางที่ตนเองรักได้อย่างสบายใจ
ระหว่างกำลังนั่งอยู่บนรถไฟเพื่อเดินทางไปส่งปิ่นโตให้คุณพ่อที่หอสมุด ชิซึคุก็พบเข้ากับแมวเร่ร่อนตัวอ้วน ท่าทางเมินเฉยไม่แยแสต่อสิ่งรอบข้างของมันทั้งยียวนกวนประสาทแต่ก็ชวนให้น่าสนใจ เธอตัดสินใจติดตามแมวจอมเจ้าเล่ห์ไปเรื่อย ๆ เพื่อค้นหาเป้าหมายของมันซึ่งก็คือร้านขายของเก่า “Earth Shop” ที่ดำเนินกิจการโดยคุณตาท่าทางใจดี และมีรูปสลักแมว “Baron Humbert Von Jikkingen” อันแสนงดงาม
ราวกับโชคชะตาชักพา, หลังจากนั้นไม่นานเธอก็ได้รู้ว่าเซย์จิคุงคนที่เธอตามหาก็คือหลานชายแท้ ๆ ของคุณตาเจ้าของร้านขายของเก่าแห่งนี้นี่เอง
ที่นี่, ชิซึคุได้เห็นแง่มุมลึก ๆ รวมทั้งตัวตนจริง ๆ ที่ไม่เคยเห็นของเซย์จิ สิ่งเหล่านี้มันก็ทำให้หัวใจของเธอพองโตความฝันของเด็กชายที่แน่วแน่ต่อการเป็นช่างทำไวโอลินจุดประกายให้ชิซึคุฮึดสู้ กลับไปฟังเสียงกระซิบจากหัวใจ และลงมือเขียนนวนิยายซึ่งเป็นสิ่งที่เธอรักมาตั้งแต่ต้นและรักมากที่สุดเพื่อเป็นการพิสูจน์ตัวเองตามความคิดของเธอ ประสบการณ์ครั้งนี้ทำให้สาวน้อยได้รู้จักตนเอง และสามารถก้าวพ้นวันเวลาแห่งความสับสนไปได้อย่างมั่นคง
รวมๆแล้วเรื่องนี้เป็นอนิเมชั่นที่สร้างแรงบันดาลพอสมควร ดูแลอบอุ่นหัวใจมากๆค่ะ
แนะนำให้ดูเรื่องนี้จริงๆ มาหัวใจจะพองโตไปด้วยกันน้า
อันดับที่1
from up on poppy hill (ป๊อปปี้ ฮิลล์ ร่ำร้องขอปาฏิหาริย์)
เรื่องนี้แอบงงชื่อภาษาไทยนิดหน่อยค่ะ อ่านดูแล้วดูเหมือนจะดราม่าอะไรขนาดนั้น555 แต่ความจริงเรื่องนี้ไม่ได้ดราม่าน้ำตาแตกอะไรขนาดนั้นนะ
เนื้อเรื่องคือ
“มะสึซากิ อูมิ” เด็กสาววัย 16 ปี ผู้สูญเสียบิดาไปในสงครามเกาหลี อาศัยอยู่ในบ้านโคะกุริโกะ ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองท่าโยะโกะฮะมะ เพื่อระลึกถึงบิดา ทุกเช้าเธอจะชักธงสัญญาณแบบเดียวกันขึ้นที่บ้านของเธอ
ที่โรงเรียนมัธยมปลาย ในขณะที่อูมิกำลังรับประทานอาหารเที่ยงกับเพื่อน เหล่านักเรียนชายส่วนหนึ่ง ได้ทำการรณรงค์ต่อต้านการรื้อถอนอาคารชมรม “ละติน ควอเตอร์” ซึ่งเป็นอาคารเก่าแก่สถาปัตยกรรมแบบตะวันตก โดยมีนักเรียนชายคนหนึ่ง แสดงออกด้วยการกระโดดจากหลังคาของอาคารเรียนลงไปในบ่อน้ำในบริเวณที่อูมิและเพื่อนๆนั่งอยู่ เมื่อเห็นดังนั้นอูมิจึงเข้าไปช่วยให้เขาขึ้นมาจากบ่อน้ำ แต่ด้วยสายตาของบรรดานักเรียนต่างจับจ้อง เธอจึงละทิ้งการช่วยเหลือ
จากวีรกรรมของนักเรียนชายคนนั้น ทำให้เป็นข่าวไปทั่วทั้งโรงเรียน เขาคนนั้นชื่อว่า “คาซามะ ชุน” เป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ของโรงเรียน ด้วยการที่น้องสาวของอูมิอยากได้ลายเซ็นของชุน จึงขอร้องให้อูมิช่วยไปละติน ควอเตอร์กับเธอเป็นเพื่อน อูมิไม่อาจปฏิเสธได้ ทั้งสองจึงไปที่ละติน ควอเตอร์ โดยพบว่าภายในละติน ควอเตอร์นั้น มีสภาพที่รกระเกะระกะมาก ผู้คนในละติน ควอเตอร์ทั้งหมดล้วนเป็นผู้ชาย โดยในแต่ละชั้นจากทั้งหมดสามชั้นจะประกอบไปด้วยชมรมต่างๆมากมาย อาทิ ชมรมดาราศาสตร์, ชมรมเคมี, ชมรมวรรณกรรม เป็นต้น โดยนักเรียนที่นี่มีความสนใจและทุ่มเทกับงานในชมรมของตนมาก อูมิได้พบกับชุน และ “มิซูนูมะ ชิโร” ประธานสภานักเรียน หลังจากได้ลายเซ็นแล้ว ชิโรและน้องของอูมิก็ออกไปข้างนอก ชุนได้ขอร้องให้อูมิช่วยคัดลอกบทความแทนเขา โดยอ้างว่ามือขวาของเขาได้รับบาดเจ็บจากแมว นับแต่นั้นมา ความสนิทสนมระหว่างพวกเขาทั้งสองคนก็เพิ่มมากขึ้น
ต่อมา โรงเรียนได้เปิดสภานักเรียนให้นักเรียนร่วมอภิปรายเรื่องการรื้อถอนละติน ควอเตอร์ และสร้างอาคารชมรมใหม่แทน โดยนักเรียนส่วนใหญ่ก็มีความคิดเห็นด้วย ที่จะให้มีการรื้อถอนอาคาร ชุนเป็นผู้นำกลุ่มนักเรียนส่วนน้อยในการคัดค้าน เหตุการณ์เริ่มชุลมุนขึ้น แต่ชิโร ประธานนักเรียนได้ให้สัญญาณว่าครูใหญ่กำลังมา ทั้งหมดที่กำลังชุลมุนจึงกลายเป็นสามัคคีกัน และจบด้วยการณ์นั้น
เนื่องจากอูมิอยากช่วยชุนในการพิทักษ์ละติน ควอเตอร์ จึงออกความคิดเห็นว่าควรทำความสะอาด และบูรณะละติน ควอเตอร์เสียใหม่ ต่อมา อูมิได้ชักชวนเพื่อนๆ มาร่วมกันทำความสะอาดและบูรณะละติน ควอเตอร์ ร่วมกับนักเรียนชายในละติน ควอเตอร์ ในช่วงเวลานั้นเอง ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนก็เป็นไปอย่างราบรื่น จนกระทั่งชุนและชิโรได้รับเชิญไปปาร์ตี้ที่บ้านของอูมิ จึงทำให้รู้ว่า อูมินั้น ที่แท้จริงแล้วเป็นน้องสาวของตนเอง ด้วยการนั้น ชุนจึงจำเป็นต้องลืมความรู้สึกในอดีตทั้งหมด และพยายามออกห่างอูมิ…
นั้นไงมันพีคตรงสองบรรทัดสุดท้ายใช่มั้ยล่ะ มันจะเศร้าเพราะเหตุการณ์นี้แหละ55
แต่รวมๆแล้วเรื่องนี้ดีมากจนแอดมินต้องขอยกอันดับหนึ่งให้เลย เนื้อเรื่องดี ภาพสวย โดยเฉพาะชอบบรรยากาศและอารมณ์ของอาคารชมรม “ละติน ควอเตอร์”มากๆ ดูมีเสน่ห์จริงๆค่ะ
เรื่องนี้ต้องขอแนะนำให้ดูหนักๆเลยค่ะ ดีมากๆ
เป็นยังไงบ้าง3อันดับอนิเมะจากกลิบิสตูดิโอที่แอดมินยกตัวอย่างมาให้ดูกัน แอดมินขอไม่แปะลิ้งค์ออนไลน์ให้นะคะเพราะน่าจะหาดูได้จากกลูเกิ้ลค่ะ แต่ถ้าหาไม่เจอ คอมเม้นมาขอกับแอดมินได้นะคะ
วันนี้แอดมินเลยขอยกตัวอย่างอนิเมชั่นของGhibi Studioมา3เรื่อง3อันดับที่แอดมินยกให้เป็นหนังในใจของแอดมินเลยก็ว่าได้ ไปดูอนิเมชั่น3อันดับนี้กันเลยดีกว่า
อันดับที่ 3
Spirited Away (มิติวิญญาณมหัศจรรย์)
โดยเรื่องนี้เป็นอนิเมชั่นที่ได้รับรางวัลระดับโลกอย่าง รางวัลออสการ์ ครั้งที่ 75 เลยทีเดียว
มีเนื้อหาประมาณว่าด้วย ชิฮิโร่ เด็กหญิงวัยสิบปีหลงเข้าไปในโลกของภูตพร้อมครอบครัวโดยบังเอิญ บิดามารดากลายร่างเป็นหมู และเธอต้องทำงานที่โรงอาบน้ำของแม่มด เธอจึงต้องพยายามทุกวิถีทางเพื่อที่จะพาเธอและครอบครัวกลับโลกมนุษย์อีกครั้ง
เรื่องนี้ส่วนตัวแอดมินคิดว่าไม่ได้มีเนื้อเรื่องหรือบทที่ปังมากจนได้รับรางวัลออสการ์ แต่อาจจะด้วยเพราะช่วงนั้นกระแสเอเชียนิยมกำลังบูมด้วยส่วนนึง แต่รวมๆแล้วเรื่องนี้ถือว่าใช้ได้เลย เนื้อเรื่องดำเนินไปราบรื่นไม่เยอะเกินไป ดูแล้วเพลินๆดีเพราะไม่ใช่อนิเมะที่เครียดหรือดราม่าอะไรมากค่ะ
อันดับที่2
Whisper of the heart (วันนั้น…วันไหน หัวใจจะเป็นสีชมพู)
เรื่องนี้หลายคนเห็นชื่อแล้วคงคิดว่าจะเป็นอนิเมชั่นรักโรแมนติกเลี่ยนๆหรือเปล่า แต่ความจริงแล้วเรื่องนี้เป็นอนิเมชั่นที่สร้างแรงบันดาลซะมากกว่า
โดยเนื้อเรื่องจะประมาณว่า
เด็กสาวที่ชื่อ ชิซึคุ สึกิชิมะ ผู้ซึ่งเป็นนักเรียนในระดับจูเนียร์ไฮสคูลในเมืองเล็กๆ ใกล้ๆ กับเมืองทามะ ของกรุงโตเกียว เธอมีนิสัยรักการอ่านและการเขียนหนังสือในยามว่าง แต่พ่อแม่ของเธอหวังจะให้เธอใช้เวลากับการบ้านเสียมากกว่า อีกทั้งช่วงเวลาของการสอบเข้าเรียนไฮสคูลก็ใกล้เข้ามาแล้วด้วย เรื่องราวเกิดขึ้นในเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งภายใต้บรรยากาศทันสมัยของประเทศญี่ปุ่น ในขณะที่เด็กวัยรุ่นคนอื่น ๆ กำลังตั้งหน้าตั้งตาเตรียมตัวสอบเข้าเรียนต่อในชั้นมัธยมปลาย แต่ชิซึคุ เด็กสาวผู้รักการอ่านเป็นชีวิตจิตใจ กลับเลือกที่จะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการอ่านหนังสือนวนิยายที่หยิบยืมมาจากหอสมุด และตัวเลขยี่สิบเล่มก็คือเป้าหมายที่สาวน้อยวัยสิบสี่ปีวางไว้สำหรับปิดเทอมครั้งนี้ของเธอ
เมื่อคุณพ่อบอกกับชิซึคุว่าหอสมุดกำลังเปลี่ยนระบบการยืมหนังสือจากที่เคยใช้บัตรเป็นระบบบาร์โค้ด เธอก็นึกอยากหยิบเอาการ์ดกระดาษแข็งที่บันทึกรายชื่อผู้ยืมหนังสือออกมาดู น่าแปลกที่หนังสือทุกเล่มที่เธอเคยอ่านจะมีชื่อของ “เซย์จิ อามาซาว่า” ยืมไปก่อนหน้าเธอทุกครั้ง
สิ่งที่เกิดขึ้นสร้างความประหลาดใจให้ชิซึคุอย่างมาก และทำให้เธออดไม่ได้ที่จะเฝ้ามองหาชายในจินตนาการของเธอ ขยันอ่านหนังสือ สอบเข้ามัธยมปลาย และเรียนในมหาวิทยาลัยดี ๆ คือเสียงจากสังคมที่กระซิบบอกเยาวชนที่กำลังเติบโต แม้ชิซึคุจะชอบหนังสือนิยายเพียงใด หรือมีพรสวรรค์ในด้านวรรณคดีแค่ไหน ตัวเธอเองก็ไม่สามารถมองข้ามบรรทัดฐานเหล่านั้นและเลือกเดินไปบนเส้นทางที่ตนเองรักได้อย่างสบายใจ
ระหว่างกำลังนั่งอยู่บนรถไฟเพื่อเดินทางไปส่งปิ่นโตให้คุณพ่อที่หอสมุด ชิซึคุก็พบเข้ากับแมวเร่ร่อนตัวอ้วน ท่าทางเมินเฉยไม่แยแสต่อสิ่งรอบข้างของมันทั้งยียวนกวนประสาทแต่ก็ชวนให้น่าสนใจ เธอตัดสินใจติดตามแมวจอมเจ้าเล่ห์ไปเรื่อย ๆ เพื่อค้นหาเป้าหมายของมันซึ่งก็คือร้านขายของเก่า “Earth Shop” ที่ดำเนินกิจการโดยคุณตาท่าทางใจดี และมีรูปสลักแมว “Baron Humbert Von Jikkingen” อันแสนงดงาม
ราวกับโชคชะตาชักพา, หลังจากนั้นไม่นานเธอก็ได้รู้ว่าเซย์จิคุงคนที่เธอตามหาก็คือหลานชายแท้ ๆ ของคุณตาเจ้าของร้านขายของเก่าแห่งนี้นี่เอง
ที่นี่, ชิซึคุได้เห็นแง่มุมลึก ๆ รวมทั้งตัวตนจริง ๆ ที่ไม่เคยเห็นของเซย์จิ สิ่งเหล่านี้มันก็ทำให้หัวใจของเธอพองโตความฝันของเด็กชายที่แน่วแน่ต่อการเป็นช่างทำไวโอลินจุดประกายให้ชิซึคุฮึดสู้ กลับไปฟังเสียงกระซิบจากหัวใจ และลงมือเขียนนวนิยายซึ่งเป็นสิ่งที่เธอรักมาตั้งแต่ต้นและรักมากที่สุดเพื่อเป็นการพิสูจน์ตัวเองตามความคิดของเธอ ประสบการณ์ครั้งนี้ทำให้สาวน้อยได้รู้จักตนเอง และสามารถก้าวพ้นวันเวลาแห่งความสับสนไปได้อย่างมั่นคง
รวมๆแล้วเรื่องนี้เป็นอนิเมชั่นที่สร้างแรงบันดาลพอสมควร ดูแลอบอุ่นหัวใจมากๆค่ะ
แนะนำให้ดูเรื่องนี้จริงๆ มาหัวใจจะพองโตไปด้วยกันน้า
อันดับที่1
from up on poppy hill (ป๊อปปี้ ฮิลล์ ร่ำร้องขอปาฏิหาริย์)
เรื่องนี้แอบงงชื่อภาษาไทยนิดหน่อยค่ะ อ่านดูแล้วดูเหมือนจะดราม่าอะไรขนาดนั้น555 แต่ความจริงเรื่องนี้ไม่ได้ดราม่าน้ำตาแตกอะไรขนาดนั้นนะ
เนื้อเรื่องคือ
“มะสึซากิ อูมิ” เด็กสาววัย 16 ปี ผู้สูญเสียบิดาไปในสงครามเกาหลี อาศัยอยู่ในบ้านโคะกุริโกะ ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองท่าโยะโกะฮะมะ เพื่อระลึกถึงบิดา ทุกเช้าเธอจะชักธงสัญญาณแบบเดียวกันขึ้นที่บ้านของเธอ
ที่โรงเรียนมัธยมปลาย ในขณะที่อูมิกำลังรับประทานอาหารเที่ยงกับเพื่อน เหล่านักเรียนชายส่วนหนึ่ง ได้ทำการรณรงค์ต่อต้านการรื้อถอนอาคารชมรม “ละติน ควอเตอร์” ซึ่งเป็นอาคารเก่าแก่สถาปัตยกรรมแบบตะวันตก โดยมีนักเรียนชายคนหนึ่ง แสดงออกด้วยการกระโดดจากหลังคาของอาคารเรียนลงไปในบ่อน้ำในบริเวณที่อูมิและเพื่อนๆนั่งอยู่ เมื่อเห็นดังนั้นอูมิจึงเข้าไปช่วยให้เขาขึ้นมาจากบ่อน้ำ แต่ด้วยสายตาของบรรดานักเรียนต่างจับจ้อง เธอจึงละทิ้งการช่วยเหลือ
จากวีรกรรมของนักเรียนชายคนนั้น ทำให้เป็นข่าวไปทั่วทั้งโรงเรียน เขาคนนั้นชื่อว่า “คาซามะ ชุน” เป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ของโรงเรียน ด้วยการที่น้องสาวของอูมิอยากได้ลายเซ็นของชุน จึงขอร้องให้อูมิช่วยไปละติน ควอเตอร์กับเธอเป็นเพื่อน อูมิไม่อาจปฏิเสธได้ ทั้งสองจึงไปที่ละติน ควอเตอร์ โดยพบว่าภายในละติน ควอเตอร์นั้น มีสภาพที่รกระเกะระกะมาก ผู้คนในละติน ควอเตอร์ทั้งหมดล้วนเป็นผู้ชาย โดยในแต่ละชั้นจากทั้งหมดสามชั้นจะประกอบไปด้วยชมรมต่างๆมากมาย อาทิ ชมรมดาราศาสตร์, ชมรมเคมี, ชมรมวรรณกรรม เป็นต้น โดยนักเรียนที่นี่มีความสนใจและทุ่มเทกับงานในชมรมของตนมาก อูมิได้พบกับชุน และ “มิซูนูมะ ชิโร” ประธานสภานักเรียน หลังจากได้ลายเซ็นแล้ว ชิโรและน้องของอูมิก็ออกไปข้างนอก ชุนได้ขอร้องให้อูมิช่วยคัดลอกบทความแทนเขา โดยอ้างว่ามือขวาของเขาได้รับบาดเจ็บจากแมว นับแต่นั้นมา ความสนิทสนมระหว่างพวกเขาทั้งสองคนก็เพิ่มมากขึ้น
ต่อมา โรงเรียนได้เปิดสภานักเรียนให้นักเรียนร่วมอภิปรายเรื่องการรื้อถอนละติน ควอเตอร์ และสร้างอาคารชมรมใหม่แทน โดยนักเรียนส่วนใหญ่ก็มีความคิดเห็นด้วย ที่จะให้มีการรื้อถอนอาคาร ชุนเป็นผู้นำกลุ่มนักเรียนส่วนน้อยในการคัดค้าน เหตุการณ์เริ่มชุลมุนขึ้น แต่ชิโร ประธานนักเรียนได้ให้สัญญาณว่าครูใหญ่กำลังมา ทั้งหมดที่กำลังชุลมุนจึงกลายเป็นสามัคคีกัน และจบด้วยการณ์นั้น
เนื่องจากอูมิอยากช่วยชุนในการพิทักษ์ละติน ควอเตอร์ จึงออกความคิดเห็นว่าควรทำความสะอาด และบูรณะละติน ควอเตอร์เสียใหม่ ต่อมา อูมิได้ชักชวนเพื่อนๆ มาร่วมกันทำความสะอาดและบูรณะละติน ควอเตอร์ ร่วมกับนักเรียนชายในละติน ควอเตอร์ ในช่วงเวลานั้นเอง ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนก็เป็นไปอย่างราบรื่น จนกระทั่งชุนและชิโรได้รับเชิญไปปาร์ตี้ที่บ้านของอูมิ จึงทำให้รู้ว่า อูมินั้น ที่แท้จริงแล้วเป็นน้องสาวของตนเอง ด้วยการนั้น ชุนจึงจำเป็นต้องลืมความรู้สึกในอดีตทั้งหมด และพยายามออกห่างอูมิ…
นั้นไงมันพีคตรงสองบรรทัดสุดท้ายใช่มั้ยล่ะ มันจะเศร้าเพราะเหตุการณ์นี้แหละ55
แต่รวมๆแล้วเรื่องนี้ดีมากจนแอดมินต้องขอยกอันดับหนึ่งให้เลย เนื้อเรื่องดี ภาพสวย โดยเฉพาะชอบบรรยากาศและอารมณ์ของอาคารชมรม “ละติน ควอเตอร์”มากๆ ดูมีเสน่ห์จริงๆค่ะ
เรื่องนี้ต้องขอแนะนำให้ดูหนักๆเลยค่ะ ดีมากๆ
เป็นยังไงบ้าง3อันดับอนิเมะจากกลิบิสตูดิโอที่แอดมินยกตัวอย่างมาให้ดูกัน แอดมินขอไม่แปะลิ้งค์ออนไลน์ให้นะคะเพราะน่าจะหาดูได้จากกลูเกิ้ลค่ะ แต่ถ้าหาไม่เจอ คอมเม้นมาขอกับแอดมินได้นะคะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น